การทำกราวนด์แบบกราวนด์ลึก ถือได้ว่าเป็นการทำกราวนด์แบบกราวนด์แท่งชนิดหนึ่ง (Vertical ground rod electrode) ซึ่งมีใช้กันมานานแล้ว และได้กล่าวไว้ในมาตรฐาน IEC, ANSI/IEEE, NEC เรื่อง การทำระบบกราวนด์ การทำกราวนด์ในปัจจุบันยังมีอยู่หลากหลายชนิดด้วยกัน เช่น การทำกราวนด์แบบสามเหลี่ยม (DELTA),การทำกราวนด์แบบแท่งกราวนด์เดี่ยว (Single ground rod electrode) หรือบางครั้งถูกเรียกว่ากราวนด์ลึก, การทำกราวนด์แบบแผ่น (Ground Plate), การทำกราวนด์แบบแท่งขนาน (Multiple ground rod electrode), การทำกราวนด์แบบตาราง (Ground Grid ), การทำกราวนด์แบบเคมี (Chemical Ground), การทำกราวนด์แบบแนวนอน (Horizontal Ground), การทำกราวนด์แบบวงแหวน (Ground Ring) หรือแม้กระทั่งใช้โครงสร้างและสาธารณูปโภคของอาคาร( Local Metal Underground System or Building Structures Ground )ในการเป็นกราวนด์ให้กับระบบก็สามารถทำได้เช่นกัน ซึ่งคุณสมบัติหลักข้อแรกๆ ของระบบกราวนด์ที่ดีก็คือ ควรมีค่า คตท ดินของแท่งกราวนด์ที่ต่ำ เช่น ใกล้เคียงศูนย์โอห์มเป็นต้น ซึ่งการที่ระบบกราวนด์มีค่า คตท ดินของแท่งกราวนด์ที่ต่ำ จะทำให้ระบบไฟฟ้าที่ต่อกราวนด์ไปใช้งานมีความปลอดภัยและมีเสถียรภาพที่ดีไปด้วย ดังนั้นระบบกราวน์ที่ดีควรคำนึงถึงคุณสมบัติในข้อนี้เป็นลำดับแรกๆ
คุณสมบัติของระบบกราวนด์ที่ดีข้อต่อมาก็คือ สามารถถ่ายเทกระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้ดีในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งคุณสมบัตินี้เป็นคุณสมบัติอีกข้อหนึ่งที่ระบบกราวนด์ควรมีและมีความสำคัญต่อระบบไฟฟ้าเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น กรณีที่เกิดฟ้าผ่าบริเวณใกล้เคียง ทำให้เกิดการเหนี่ยวนำและก่อให้เกิดกระแสไฟกระโชกขนาดใหญ่เข้ามาในระบบไฟฟ้า ระบบกราวนด์ที่ดีจะต้องสามารถระบายกระแสไฟกระโชกที่เข้ามาในระบบนั้นลงกราวนด์ได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที จึงจะทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต่อร่วมอยู่ได้รับผลกระทบจากกระแสไฟกระโชกน้อยที่สุด ซึ่งในระบบกราวนด์ลึกมีคุณสมบัติข้อนี้เป็นอย่างดี เนื่องจากสามารถถ่ายเทกระแสไฟกระโชกลงโดยตรงที่จุดศูนย์ร่วมของโลก (Common Earth) ที่อยู่ลึกลงไปในดินได้อย่างรวดเร็วจึงทำให้ผลกระทบจากไฟกระโชกในระดับพื้นดินมีน้อยที่สุด ทำให้อุปกรณ์ที่ต่อร่วมและผู้ที่ใช้งานมีความปลอดภัย ไปด้วยเช่นกัน
คุณสมบัติของระบบกราวนด์ที่ดีข้อต่อมาก็คือ ต้องสามารถให้ค่า คตท ดินของแท่งกราวนด์ที่ต่ำตลอดอายุการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นในฤดูฝนที่มีความชื้นในดินสูง ฤดูหนาวที่ค่าความชื้นในดินต่ำ หรือแม้กระทั่งเป็นหน้าร้อนที่ดินแตกระแหงก็ตาม รวมถึงไม่ว่าระยะเวลาจะผ่านไปยาวนานเท่าใดก็ตามระบบกราวนด์ที่ดีควรที่จะยังคงให้ค่า คตท ดินของแท่งกราวนด์ที่ต่ำอยู่ ซึ่งจะทำให้ระบบไฟฟ้าที่ต่อใช้งานมีเสถียรภาพที่ดีไปด้วยเช่นกัน คุณสมบัติในข้อนี้มักจะไม่พบในการทำกราวนด์ในระดับผิวดินแบบทั่วๆไป
คุณสมบัติหลักๆ ของระบบกราวนด์ที่ดีข้อต่อมาก็คือต้องการการบำรุงรักษาและการเอาใจใส่น้อย หรือไม่ต้องการการบำรุงรักษาเลย มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีราคาในการติดตั้งที่สมเหตุผลและคุ้มค่ากับการลงทุน ยกตัวอย่างเช่น
การทำกราวนด์โดยการปักแท่งทองแดงยาว 3 เมตรแบบ DELTA อาจให้ผลที่ดีในระยะแรกๆ คือมีค่าความต้านทานดินของแท่งกราวนด์ที่ต่ำในช่วงที่ติดตั้งแล้วเสร็จใหม่ๆ แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไป ทองแดงจะทำปฏิกริยากับความชื้นและอากาศทำให้เกิด oxide จึงทำให้เกิดการกัดกร่อนอย่างรวดเร็ว รวมถึงสภาพความชื้นในช่วงฤดูต่างๆ ก็มีผลต่อค่า คตท ดินของแท่งกราวนด์เนื่องจากเป็นกราวนด์ในระดับผิวดิน จึงจำเป็นต้องมีการตรวจเช็คและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ
การทำกราวนด์แบบเคมี ก็มีความจำเป็นที่จะต้องทำการตรวจสอบและการบำรุงรักษา โดยการตรวจเช็คและเติมสารเคมีเป็นประจำเช่นกัน ซึ่งสารเคมีที่ใช้อาจมีผลต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรงในระยะยาว |
|
|
 |
 |
 |
 |
 |
 |
